Big Lot คืออะไร
Big Lot หมายถึง การซื้อขายหุ้นจำนวนมากในครั้งเดียว โดยมีข้อกำหนดว่าต้องมีปริมาณหรือมูลค่าการซื้อขายขั้นต่ำที่กำหนดไว้ ตัวอย่างเช่น
- จำนวนหุ้นต้องไม่น้อยกว่า 1 ล้านหุ้น
- หรือมูลค่ารวมของธุรกรรมต้องไม่น้อยกว่า 3 ล้านบาท
ธุรกรรม Big Lot มักดำเนินการนอกกระดานการซื้อขายหลัก (Main Board) และจะไม่มีผลกระทบโดยตรงต่อราคาหุ้นในตลาด เนื่องจากการซื้อขายไม่ได้อิงราคาที่เสนอซื้อ-เสนอขาย (Bid-Ask) ในกระดานปกติ
ลักษณะสำคัญของ Big Lot
- การตกลงราคานอกรอบ
- ราคาที่ใช้ในธุรกรรม Big Lot จะเป็นราคาที่ตกลงกันระหว่างผู้ซื้อและผู้ขาย โดยอาจสูงหรือต่ำกว่าราคาตลาดในขณะนั้น
- ไม่กระทบราคาหุ้นในกระดานหลัก
- การซื้อขายแบบ Big Lot จะไม่ส่งผลต่อราคาปิดหรือราคาซื้อขายทั่วไปในตลาด
- เหมาะสำหรับนักลงทุนรายใหญ่
- นักลงทุนสถาบันหรือเจ้าของกิจการที่ต้องการซื้อหรือขายหุ้นจำนวนมากในครั้งเดียวมักใช้วิธีนี้
เหตุผลที่นักลงทุนเลือกใช้ Big Lot
- ประหยัดเวลา
- การซื้อขายหุ้นจำนวนมากในครั้งเดียวช่วยลดความยุ่งยากในการทำธุรกรรมหลายรอบ
- ลดผลกระทบต่อราคาหุ้น
- หากทำการซื้อขายหุ้นจำนวนมากในกระดานหลัก อาจส่งผลให้ราคาหุ้นผันผวน
- เหมาะสำหรับธุรกรรมพิเศษ
- เช่น การเปลี่ยนมือผู้ถือหุ้นรายใหญ่ หรือการซื้อขายระหว่างนักลงทุนรายใหญ่
Big Lot มีผลต่อผู้ลงทุนรายย่อยหรือไม่?
โดยทั่วไป การซื้อขายแบบ Big Lot มักไม่ส่งผลกระทบต่อผู้ลงทุนรายย่อย เนื่องจากไม่ได้เปลี่ยนแปลงราคาหุ้นในตลาดหลัก อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างผู้ถือหุ้นหรือจำนวนหุ้นในมือของผู้ถือหุ้นรายใหญ่ อาจส่งผลต่อมุมมองและความเชื่อมั่นของนักลงทุนในระยะยาว
Big Lot กับการลงทุน IPO
ในกรณีของหุ้น IPO นักลงทุนรายใหญ่บางรายอาจใช้วิธีซื้อหุ้นผ่าน Big Lot เพื่อให้ได้หุ้นในปริมาณที่ต้องการโดยไม่กระทบราคาหุ้นในกระดานหลัก อย่างไรก็ตาม การทำธุรกรรม Big Lot จะไม่อยู่ภายใต้ข้อกำหนด Silent Period ที่ใช้ควบคุมการขายหุ้นของ Strategic Shareholders
ข้อดีและข้อเสียของ Big Lot
ข้อดี
- ลดแรงกดดันต่อราคาหุ้นในกระดาน
- ช่วยให้นักลงทุนรายใหญ่ทำธุรกรรมได้สะดวกรวดเร็ว
- เหมาะสำหรับการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างผู้ถือหุ้น
ข้อเสีย
- นักลงทุนรายย่อยอาจไม่ได้รับข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับธุรกรรม Big Lot
- อาจทำให้เกิดความกังวลหากมีการขายหุ้นจำนวนมากจากผู้ถือหุ้นรายใหญ่