อัตราส่วนทางการเงินที่สำคัญ

อัตราส่วนทางการเงินที่สำคัญ

อัตราส่วนทางการเงินคืออะไร

อัตราส่วนทางการเงิน เป็นตัวชี้วัดที่ช่วยให้นักลงทุนสามารถวิเคราะห์สถานะทางการเงินของบริษัทได้อย่างเป็นระบบ โดยการเปรียบเทียบข้อมูลในงบการเงินเพื่อประเมินความสามารถในการทำกำไร สภาพคล่อง ประสิทธิภาพในการดำเนินงาน และโครงสร้างทางการเงิน

อัตราส่วนเหล่านี้เป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยให้นักลงทุนสามารถตัดสินใจได้ว่าควรลงทุนในหุ้นของบริษัทใด

อัตราส่วนทางการเงินที่สำคัญ

1. อัตราส่วนความสามารถในการทำกำไร (Profitability Ratios)

อัตรากำไรสุทธิ (Net Profit Margin)

  • คำนวณจาก: (กำไรสุทธิ ÷ รายได้รวม) × 100
  • ใช้บอกว่าบริษัทมีกำไรจากรายได้มากน้อยเพียงใด
  • ค่าอัตราส่วนที่สูงบ่งชี้ว่าบริษัทมีความสามารถในการควบคุมต้นทุนได้ดี

อัตรากำไรขั้นต้น (Gross Profit Margin)

  • คำนวณจาก: (กำไรขั้นต้น ÷ รายได้รวม) × 100
  • แสดงให้เห็นว่าบริษัทสามารถควบคุมต้นทุนขายได้ดีหรือไม่

อัตรากำไรจากการดำเนินงาน (Operating Profit Margin)

  • คำนวณจาก: (กำไรจากการดำเนินงาน ÷ รายได้รวม) × 100
  • ช่วยให้เห็นว่ากำไรหลักของธุรกิจมาจากการดำเนินงานจริงหรือไม่

2. อัตราส่วนสภาพคล่อง (Liquidity Ratios)

อัตราส่วนสภาพคล่องเร็ว (Quick Ratio)

  • คำนวณจาก: (สินทรัพย์หมุนเวียน – สินค้าคงคลัง) ÷ หนี้สินหมุนเวียน
  • แสดงให้เห็นว่าบริษัทมีสินทรัพย์ที่สามารถเปลี่ยนเป็นเงินสดได้เร็วพอที่จะจ่ายหนี้ระยะสั้นหรือไม่
  • ค่ามากกว่า 1.0 ถือว่ามีสภาพคล่องที่ดี

อัตราส่วนหมุนเวียนสินทรัพย์ (Current Ratio)

  • คำนวณจาก: สินทรัพย์หมุนเวียน ÷ หนี้สินหมุนเวียน
  • แสดงให้เห็นว่าบริษัทมีความสามารถในการชำระหนี้ระยะสั้นได้หรือไม่

3. อัตราส่วนประสิทธิภาพ (Efficiency Ratios)

อัตราส่วนหมุนเวียนสินค้าคงคลัง (Inventory Turnover Ratio)

  • คำนวณจาก: ต้นทุนขาย ÷ สินค้าคงคลังเฉลี่ย
  • แสดงให้เห็นว่าบริษัทสามารถขายสินค้าได้เร็วแค่ไหน

อัตราการหมุนเวียนของสินทรัพย์รวม (Total Asset Turnover)

  • คำนวณจาก: รายได้รวม ÷ สินทรัพย์รวม
  • แสดงให้เห็นว่าบริษัทสามารถใช้สินทรัพย์ทั้งหมดเพื่อสร้างรายได้ได้ดีแค่ไหน

4. อัตราส่วนโครงสร้างทางการเงิน (Financial Structure Ratios)

อัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (Debt to Equity Ratio – D/E Ratio)

  • คำนวณจาก: หนี้สินรวม ÷ ส่วนของผู้ถือหุ้น
  • แสดงให้เห็นว่าบริษัทมีภาระหนี้มากน้อยเพียงใดเมื่อเทียบกับเงินลงทุนของผู้ถือหุ้น

อัตราผลตอบแทนจากส่วนของผู้ถือหุ้น (Return on Equity – ROE)

  • คำนวณจาก: (กำไรสุทธิ ÷ ส่วนของผู้ถือหุ้น) × 100
  • แสดงให้เห็นว่าบริษัทสามารถสร้างผลตอบแทนให้กับผู้ถือหุ้นได้มากน้อยเพียงใด

อัตราผลตอบแทนจากสินทรัพย์รวม (Return on Assets – ROA)

  • คำนวณจาก: (กำไรสุทธิ ÷ สินทรัพย์รวม) × 100
  • แสดงให้เห็นว่าบริษัทสามารถใช้สินทรัพย์ในการสร้างกำไรได้ดีเพียงใด

5. อัตราส่วนการประเมินมูลค่าหุ้น (Valuation Ratios)

อัตราส่วนราคาต่อกำไร (Price to Earnings Ratio – P/E Ratio)

  • คำนวณจาก: ราคาหุ้น ÷ กำไรต่อหุ้น (EPS)
  • ใช้ประเมินว่าหุ้นมีราคาแพงหรือถูกเมื่อเทียบกับกำไรของบริษัท

อัตราส่วนราคาต่อมูลค่าหุ้นทางบัญชี (Price to Book Value – P/B Ratio)

  • คำนวณจาก: ราคาหุ้น ÷ มูลค่าทางบัญชีต่อหุ้น
  • ใช้ประเมินว่าหุ้นมีราคาสูงหรือต่ำเมื่อเทียบกับสินทรัพย์ของบริษัท

วิธีใช้อัตราส่วนทางการเงินในการวิเคราะห์หุ้น

  1. เปรียบเทียบกับบริษัทในอุตสาหกรรมเดียวกัน – เพื่อดูว่าบริษัทมีความสามารถในการแข่งขันหรือไม่
  2. ดูแนวโน้มย้อนหลัง – การเปรียบเทียบอัตราส่วนทางการเงินในช่วง 3-5 ปีช่วยให้เห็นแนวโน้มการเติบโต
  3. ใช้หลายอัตราส่วนร่วมกัน – ไม่ควรดูเพียงอัตราส่วนเดียว ควรวิเคราะห์หลายด้านเพื่อให้เห็นภาพรวมของบริษัท
  4. ดูความสัมพันธ์ระหว่างอัตราส่วน – เช่น P/E ต่ำอาจหมายถึงหุ้นถูก หรืออาจหมายถึงกำไรลดลง
  5. พิจารณาปัจจัยภายนอก – สภาพเศรษฐกิจ อัตราดอกเบี้ย และแนวโน้มตลาดหุ้นก็มีผลต่อมูลค่าหุ้น
Scroll to Top